“เผยเทคนิคชนะใจลูกค้าด้วยการตลาดแบบ Personalization”
—
บทความที่แล้วเราได้พูดถึงความฉลาดของแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเพลงในการใช้ AI ช่วยจัดเพลย์ลิสต์ให้ผู้ใช้งานไปแล้ว ในบทความนี้เราจะมาขยายความผ่านมุมมองทางการตลาดที่จะช่วยมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัดในโลกยุคดิจิทัลด้วยเทคนิคการทำการตลาดแบบ Personalization
.
Personalized Marketing พูดง่าย ๆ ก็คือการทำตลาดแบบวางแผนสร้างความประทับใจให้ลูกค้า โดยการวิเคราะห์ว่าลูกค้าชอบอะไร และต้องการอะไร แล้วเลือกนำเสนอสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ตามความสนใจของแต่ละบุคคล
.
ถึงแม้ว่าการทำการตลาดแบบนี้จะมีมานานแล้ว แต่ในปัจจุบันที่โลกดิจิทัลกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ Personalized Marketing ยิ่งมีความสำคัญในการทำการตลาดสำหรับธุรกิจ ซึ่งมีหลากหลายแบรนด์ที่ได้นำกลยุทธ์นี้มาใช้ และมีการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้เพื่อนำ Data มาวิเคราะห์ในการทำการตลาด
—
อีกหนึ่งธุรกิจ Retail แฟชั่นชั้นนำจากอเมริกา นั่นคือ “GAP” คือธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับ Data เพื่อสร้างแคมเปญโฆษณาที่ตรงใจลูกค้า โดยการนำ data ทั้งจากภายในที่รวบรวมมาเองจากการขาย และ data ที่ได้มาจากแหล่งอื่น เช่น ความสนใจ พฤติกรรม ความต้องการในแต่ละช่วงของชีวิต (life stage) รวมไปถึงข้อมูล demographic ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
.
ถึงแม้ว่า GAP จะเคยล้มเหลวจากการเปิดร้านค้าในอเมริกาเหนือ และต้องปิดตัวไปถึง 175 สาขา แต่การก้าวเข้ามาสู่แพลตฟอร์มสำหรับ Online Shopping ก็ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับตัวแบรนด์อย่างเห็นได้ชัด
.
GAP ได้ใช้ช่องทางนี้ในการรวบรวม Data เพื่อทำนายพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า แล้ววางกลยุทธ์การสื่อสารให้ตรงกับความสนใจของลูกค้าผ่าน Personalize Content
.
โดย GAP จะพัฒนาคลังเนื้อหาและข้อความ ร่วมกับเทคโนโลยี Dynamic Content Optimization (DCO) ที่จะช่วยให้เรียนรู้และเข้าใจคอนเทนต์ที่ลูกค้าแต่ละคนชอบและสนใจ แล้วเลือกส่งคอนเทนต์เหล่านี้ไปให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ตรงกับลูกค้านั้น ๆ โดยจะใส่ใจทั้งหัวข้อเรื่อง เนื้อหา หรือ Subject ในอีเมล ที่จะต้องเป็นข้อความที่ตรงกับความสนใจของลูกค้าในแต่ละประเภท และยังใช้กลยุทธ์นี้บนเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และช่องทางอื่น ๆ ออนไลน์
—
ในขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กเอง ก็สามารถนำ personalized marketing มาใช้เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของตนเองได้ เช่น หากคุณทำธุรกิจร้านอาหาร การจดจำเมนูอาหารที่ลูกค้าคนนั้น ๆ มาทานบ่อย ๆ แล้วสามารถเสนอเมนูนั้นให้กับลูกค้าเมื่อมาทานครั้งต่อไป จะทำให้สามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของคุณได้
.
การทำการตลาดแบบนี้จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ เราก็สามารถใช้ Data ในการเรียนรู้ลูกค้าด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน เพราะคือการใส่ใจในตัวลูกค้า และทำให้ลูกค้าอยากกลับมาใช้บริการหรือซื้อสินค้าของเราซ้ำอีก
—
สรุป
• การใส่ใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า สำคัญอย่างมากต่อการทำการตลาดในยุคปัจจุบัน เพราะจะช่วยให้สามารถสังเกตและยอมรับข้อผิดพลาด รวมไปถึงพัฒนาธุรกิจของเราให้ดีขึ้นได้
—
บทความหน้าจะมีเรื่อง Data กับธุรกิจที่น่าสนใจอีกมากมาย
ติดตามบทความดี ๆ จาก Kidyers ได้ที่
หรือสามารถติดต่อได้ที่
Email – hello@kidyers.com