ในปัจจุบัน ธุรกิจร้านอาหารมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3-5% ทุกปี โดยร้านอาหารมีมูลค่าตลาดสูงถึง 19,000 ล้านบาท
.
ด้วยจำนวนผู้แข่งขันในตลาดร้านอาหารที่สูง เราจึงได้เห็นเทคโนโลยีที่เริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการร้านอาหารและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภค
หลาย ๆ ธุรกิจร้านอาหารทั่วโลกก็มีการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นตัวช่วยสำคัญในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน รวมไปถึงสามารถสร้างประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจให้ดีขึ้นได้
.
ยกตัวอย่างเช่นร้านกาแฟแห่งหนึ่งในซานฟรานซิสโก ก็ใช้เทคโนโลยีแขนหุ่นยนต์ที่สามารถทำเครื่องดื่มให้เราได้แบบรวดเร็วและแม่นยำ
.
โดยเจ้าแขนหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถชงกาแฟลาเต้ได้ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที แถมยังสามารถบันทึกจดจำเมนูและความต้องการพิเศษของเราสำหรับเมนูนั้น ๆ เช่น รสชาติ ความเข้มข้น หรือความต้องการพิเศษอื่น ๆ ไว้ในระบบได้
.
โดยลูกค้าจะสามารถกดสั่งเครื่องดื่มผ่านโทรศัพท์มือถือได้เลย แล้วรอข้อความที่จะส่งมาเมื่อทำเครื่องดื่มเสร็จ เพื่อเดินเข้ามากดรหัสในร้าน และรับเครื่องดื่มที่สั่งแบบไม่ต้องรอคิวและกลัวความผิดพลาด
.
ที่สำคัญทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาต่อแถวสั่งเครื่องดื่ม หรือบอกรายละเอียดที่เราอยากได้ในเมนูเดิมซ้ำ ๆ
.
เทคโนโลยีนี้นอกจากจะช่วยประหยัดเวลาแล้ว ยังช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกประทับใจ ได้ความสะดวกรวดเร็วในการมาใช้การบริการในแต่ละครั้ง และได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากร้านทั่ว ๆ ไป
.
อีกหนึ่งเทคโนโลยีในธุรกิจร้านอาหารที่น่าสนใจ คือนวัตกรรมของร้านซูชิสายพานในประเทศญี่ปุ่น ที่สามารถเก็บข้อมูลรอบการหมุนของซูชิจานนั้น ๆ เพื่อนำมาคำนวณความสดของซูชิได้
.
โดยหากจานถูกหมุนอยู่นานเกินไปเชฟก็จะยกออก และเปลี่ยนใหม่เพื่อคงความสดอร่อยให้แก่ลูกค้า ซึ่งร้านจะทำการติด IC tag หรือแผงวงจรอัจฉริยะไว้บนฝาปิดซูชิทุกจาน เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลกับระบบ และสามารถตรวจนับรอบการหมุนของจานเพื่อส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ได้
.
ซึ่งการเก็บข้อมูลของจำนวนรอบการหมุนนี้ ทำให้ร้านสามารถรู้ได้ว่าจานนั้นวนอยู่นานแค่ไหนจนกว่าจะมีคนหยิบ และรู้ว่าเมนูไหนคือเมนูยอดฮิตที่มีคนหยิบไปมากที่สุดในช่วงนั้น ๆ
.
นอกจากนี้ยังช่วยให้เชฟสามารถรู้ว่าจะต้องทำซูชิอะไรในจานต่อไปเพื่อเติมในสายพานได้จากข้อมูลที่มี โดยไม่ต้องคาดเดาและสุ่มทำเมนูที่มักจะเกินหรือขาด ซึ่งข้อมูลที่แม่นยำนี้จะสามารถทำให้ลดจำนวนเมนูที่จะออกมาแล้วไม่เป็นที่ต้องการได้
.
นวัตกรรมนี้ทำให้ประหยัดเวลา ทั้งยังลดจำนวนพนักงานและการบริการที่ไม่จำเป็นไปมาก เพราะไม่ต้องมีพนักงานมาคอยเสิร์ฟหรือนับจำนวนจาน ที่สำคัญข้อมูลส่วนนี้ที่เก็บได้ก็จะสามารถนำไปวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนจาน จำนวนคน และเวลา เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอด ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจได้
.
เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ การนำเทคโนโลยีมาปรับประยุกต์ใช้ในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ จะช่วยให้ร้านอาหารมีความโดดเด่นขึ้นทั้งเรื่องการบริการ ความสะดวกรวดเร็ว และยังสามารถพัฒนาต่อยอดธุรกิจตนเองได้จากข้อมูลเหล่านี้ รวมไปถึงสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้วย
—
สรุป
• การนำข้อมูล (data) มาใช้ให้เกิดประโยชน์ จะทำให้เราสามารถทิ้งคู่แข่งให้ออกไปไกลขึ้นได้
• เมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ก็จะทำให้การบริหารจัดการธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
—